Header Ads

คุณมีสไตร์การเทรดแบบไหน


คุณมีสไตร์การเทรดแบบไหน?
สไตร์การเทรด หรือวิธีการเทรดนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดด้วย สไตร์การเทรดของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามเอกสักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละบุคคลในบทความนี้เราจะมาเน้นกันที่สไตร์การเทรดว่ามีแบบไหนกันบ้าง และเช็คตัวคุณเองว่ามีหรือไม่มีคุณสมบัติใด และคุณควร หรือ ไม่ควรเทรดแบบไหน อะไรที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ซึ่งเราจัดเทรดเดอร์ ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

         1. Scalper คือ เทรดเดอร์ที่ชอบเทรดสั้นๆ จะกินแค่น้อยๆ แต่จะกินบ่อยๆ ใช้เวลาในการถืออเดอร์แต่ละครั้งไม่นาน จะเข้า-ออก ออเดอร์วันละหลายๆครั้ง เป็นพวกที่ต้องคิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว ทำเร็ว เปรียบได้กับนักแม่นปืน ที่เฝ้ารอจังหวะพอเข้าเป้าแล้วยิงเลย เรียกได้ว่าเป็น "เทรดเดอร์สายบู๊" เลยทีเดียว เทรดเดอร์กลุ่มนี้จะรู้สึกอึดอัดมากเวลาที่เปิดออเดอร์แล้วราคาไม่วิ่ง Scalper นั้นจะต้องใช้เวลาในการเทรดมากกว่ากลุ่มอื่น เพราะจ้องนั่งเฝ้าจอทั้งวันเพื่อหาจังหวะในการทำกำไร ต้องใช้สมาธิในการคิดให้รวดเร็ว ต้องพยายามเก็บกำไรทีละน้อย(จุด) เพื่อสะสมให้ได้เป็นผลกำไรโดยรวมในระยะยาว เราจะเรียกวิธีในการเทรดแบบนี้ว่า "Scalping"
          คุณสมบัติของ Scalper
- ชอบความตื่นเต้นท้าทาย ชอบความรวดเร็ว
- มีความอดทนน้อยไม่ชอบคอยอะไรนานๆ
- มีเวลานั่งดูกราฟมากกว่าเทรดเดอร์กลุ่มอื่น อาจจะมีเวลานั่งดูกราฟได้ทั้งวันอย่างสบายๆ
- คิดเร็ว วิเคราะห์เร็ว ตัดสินใจเร็ว แต่มีสติ และมือไว
- คุณชอบวิเคราะห์รายละเอียด
คุณจะไม่สามารถเป็น Scalper ได้ ถ้าคุณเป็นคนที่ 
- ไม่ชอบอยู่ภายใต้สภาวะที่กดดัน เพราะการเทรดสั้นจะทำให้คุณต้องลุ้นตลอดเวลา
- ไม่มีเวลาให้กราฟวันละหลายๆชั่วโมงได้ อย่างที่บอกไว้ว่าคุณต้องหาจังหวะในการเข้าทำกำไรสั้นๆตลอดเวลา
ไม่ชอบเทรดบ่อยๆ
- ชอบวิเคราะห์ภาพรวม
      สิ่งที่ Scalper ต้องใส่ใจในการเทรด
          เพราะ Scalper จะเทรดเก็บแค่สั้นๆ คุณจึงต้องคำนึงถึงเรื่องของ "Spread" คุณจึงควรเทรดที่คู่เงินที่มี Spread ต่ำ ซึ่งก็มักจะเป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง ได้แก่คู่เงินหลักต่างๆ เช่น EUR/USD, AUD/USD, GBP/USD เหล่านี้ เป็นต้น ควรคำนึงด้วยว่าการเทรดแต่ละครั้งนั้นคุณควรจะได้กำไรมาก Spread อย่างน้อย 2 เท่า ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่คุ้มกับการเสี่ยงของคุณ คุณว่าจริงมั้ย?
          เพราะว่าคุณจะรู้สึกอึดอัดและกดดันมากเวลาที่ราคาไม่ขยับไปไหนเลย คุณจึงควรเลือกช่วงเวลาในการเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดของวัน อย่างเช่นช่วงเวลาที่ตลาดจะเปิด ถ้าคุณเทรด EUR/USD ก็ควรจะเทรดช่วงเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทย แต่ถ้าเทรด AUD/USD ช่วงเช้าประมาณ 6-7 โมงเช้าคุณก็เข้าตลาดได้แล้ว เพราะตลาดออสซี่เปิดทำการตั้งแต่เช้าตรู่ตามเวลาประเทศไทย และข่าวต่างๆของทางออสซี่ก็จะออกมาในช่วงเช้า อีกอย่างคือค่าเงินออสซี่นี้เป็นค่าเงินที่อ่อนไหวมากต่อข่าวของตัวมันเอง
          คุณต้องมีการควบคุมการเงินของคุณให้ดี มีการวางขนาด Lot size ในการเทรดที่เหมาะสม และมีการวางแผนตัดขาดทุน คงไม่ดีแน่ถ้าคุณต้องการกำไร 10 จุด แต่ปล่อยให้ติดลบ 50 จุด และควรเทรดเพียงคู่เงินเดียวก่อน เพราะว่าการ Scalping นั้นจะอาศัยความไวในการทำกำไรและคุณจะต้องมีสมาธิอยู่กับมันด้วย ดังนั้นคุณควรเทรดคู่เงินเดียวไปจนกว่าจะชำนาญในคู่เงินนั้น แล้วจึงค่อยเทรดคู่เงินอื่นๆเพิ่ม
          อย่าลืมว่า Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะช่วงข่าวที่จะทำให้ราคาจะวิ่งเร็วและรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก Scalper ควรอยู่ให้ห่างจากช่วงข่าวนี้ และเลือกเทรดเฉพาะเวลาที่ตลาดมีสเถียรภาพที่ราคาวิ่งแบบปรกติ

          2. Day trader คือ เทรดเดอร์ที่จะเปิดปิดออเดอร์ในช่วงวัน จะไม่ชอบถือออเดอร์ข้ามวัน คือเทรดหมดวันแล้วเริ่มต้นใหม่ในวันต่อไป เราเรียกวิธีการเทรดของเทรดเดอร์กลุ่มนี้ว่า "Day Trading" ซึ่งจะคล้ายกับ Scalping แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว การเทรดแบบ Day trading จะใช้เวลาถือออเดอร์นานกว่า เทรดเดอร์กลุ่มนี้จะเป็นพวกที่มีเวลาไม่มากนักในแต่ละวันที่จะวิเคราะห์และเปิดออเดอร์ แต่จะมีเวลาดูอยู่เรื่อยๆ  ถ้าคุณคิดว่าการ Scalping นั้นเร็วเกินไป และการเล่น Swing Trade ก็ช้าเกินไป วิธีนี้อาจจะเหมาะกับคุณ
         การเป็น Day Trader ก็มีจะมีทั้งที่เล่น ตามเทรนด์ สวนเทรน และ Breakout  ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถนัดแบบไหน ถ้าคุณเทรดได้ทุกแบบที่ว่ามา คุณก็ได้เปรียบอย่างแน่นนอน
คุณสมบัติของ Day trader
- เข้าออเดอร์เช้า แล้วออกตอนเย็น
- มีเวลาในการวิเคราะห์ตลาดในช่วงเช้า และมีเวลาที่จะคอยดูกราฟในระหว่างวัน
- คุณต้องการที่จะตัดสินกำไรหรือขาดทุนในวันเดียว
          คุณไม่สามารถเป็น Day Trader ถ้าคุณ
- ชอบเทรดยาว หรือ สั้นกว่านี้
- คุณไม่มีเวลาวิเคราะห์กราฟทุกวัน และไม่สามารถหาเวลาคอยดูกราฟเป็นครั้งคราวได้
          สิ่งที่คุณควรใส่ใจถ้าคุณอยากเป็น Day Trader
- พยายามติดตามข่าวสารที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ทิศทางของตลาดได้
- คุณจะต้องตืดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา เพราะจะใช้ในการเทรดในช่วงแรกของวัน
- ถ้าคุณมีงานทำให้จัดเวลาการทำงาน และการเทรดของคุณอย่างเหมาะสม

3. Swing Trader คือ เทรดเดอร์ที่จะเทรดตามรอบสวิงของราคา จะถือออเดอร์สองสามวันเทรดเดอร์ ประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องดูหน้าจอบ่อยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมีเวลามากที่จะใช้วิเคราะห์กราฟ และตลาดเป็นการเทรดระยะกลาง และหาจังหวะเข้าออเดอร์เมื่อมีโอกาสทำกำไรสูง และการเทรดที่ใช้ระยะที่นานกว่าวันเดียวการตัดขาดทุนก็จะต้องเผื่อไว้สำหรับการฝันผวนด้วย อาจจะมีหลายครั้งที่จะได้เห็นราคาวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับออเดอร์ที่เปิดไว้ในทางเฟรมเล็กๆ ก็ต้องมีสติ อดทนและเชื่อมั่นในระบบของตัวเอง
          การเล่นแบบ Swing Trading เป็นการเทรดที่ยาวกว่า Day Trade คือ จะถือข้ามคืนสองถึงสามวันจึง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามาคอยดูกราฟได้ตลอดเวลา แต่มีเวลาดูได้บ้างในช่วงกลางคืน เหมาะสำหรับคนที่ทำงานประจำและไม่มีเวลามากพอที่จะเฝ้าคอยดูกราฟ และเช็คข่าวตลอดเวลา
             คุณสมบัติของ Swing Trader
- คุณใจเย็นพอที่จะถือออเดอร์รอซักสองสามวันได้
- คุณเทรดน้อยครั้ง แต่มีความรอบคอบมากกว่า และต้องมั่นใจในระบบการเทรดของคุณ
- ต้องไม่กลัวการตั้งค่า Stop loss ที่มากกว่าการเทรดแบบอื่น
- ต้องมีสติเมื่อเห็นราคาวิ่งสวนทางกับออเดอร์ของคุณ
             คุณไม่ควรเป็น Swing Trader ถ้าคุณเป็นคนที่
- ชอบความเร็วตื่นเต้นเร้าใจ
- ไม่มีความอดทนมากพอที่จะถือออเดอร์ข้ามวันได้
- มีความกดดันและเครียดเมื่อเห็นราคาวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับออเดอร์ของคุณ
- ไม่สามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงในการวิเคราะห์ตลาด

             4. Position Trader คือ เทรดเดอร์ระยะยาวที่ถือออเดอร์นานๆ อาจจะเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือเป็นปี จึงจำเป็นจะต้องรู้พื้นฐานต่างๆในตลาดเป็นอย่างดี เพราะการตัดสินใจของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับพื้นฐานเหล่านี้
เทรดเดอร์กลุ่มนี้จะใช้ทามเฟรมที่ใหญ่ๆในการดูกราฟ เทรดในระยะเวลายาวๆ อาจเป็นเดือน หรือเป็นปีและเนื่องจากใช้เวลาถืออเดอร์นานจึงจำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็นพิเศษเพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดในระยะยาวและยิ่งไปกว่านั้นจะต้องรู้ด้วยว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจใดที่มีผลกระทบแบบไหนต่อแนวโน้มของค่าเงินในอนาคต
เนื่องจากเป็นการเทรดระยะยาวการ Stop Loss ก็ต้องมากตามไปด้วย ต้องมีการจัดการเงินทุนอย่างดีเยี่ยม เพื่อป้องกันการโดน Margin Call คุณอาจต้องเจอกับการแกว่งตัวของราคาที่มากกว่ากว่าการเทรดแบบอื่นๆ คุณต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม มีสติ และเชื่อมั่นในระบบและการวิเคราะห์ของคุณ
          คุณสมบัติของ Position Trader
- คุณเป็นคนที่คิดนอกกรอบ สามารถแยกแยะความคิดของตนออกจากความคิดที่คนส่วนใหญ่คิด มีความคิดที่เป็นอิสระว่าตลาดจะเป็นไปในทิศทางใด โดยที่ไม่ต้องคิดตามใคร
- คุณต้องมองการไกล และเข้าใจพื้นฐานอย่างได้ลึกซึ้ง ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยคุณได้ในระยะยาว
- จะต้องมี Stop Loss ที่กว้างพอที่จะเผชิญกับความผันผวนต่างๆในระหว่างที่คุณถือออเดอร์ได้
- ต้องมีเงินทุนมากพอที่จะรองรับ ถ้าตลาดมันเกิดการบ้าคลั่งสุดๆ
- คุณใจเย็นพอ และไม่ซีเรียสที่จะรอคอยผลกำไรของคุณ เพราะการเทรดแบบนี้ใช้เวลานาน แต่ก็จะได้ผลตอบแทนที่มากด้วยเช่นกัน
- ต้องมีความนิ่ง และมีความอดทนมากกว่าการเทรดประเภทอื่นๆ
          คุณไม่เหมาะจะเป็น Position Trader ถ้าคุณเป็นคนที่
- คุณอ่อนไหว คล้อยตามราคาตลาดที่ผันผวนมากเกินไป
- ไม่มีความเข้าใจเรื่องพื้นฐานว่ามันกระทบกับตลาดในระยะยาวอย่างไร
- ไม่มีความอดทนในการเทรดและถือออเดอร์เป็นเวลานานๆ
- ไม่มีเงินทุนมากพอ
- วิตกกังวล เครียด เมื่อตลาดไม่เป็นไปตามที่คุณคิด

          แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์สไตร์ไหน ก็ต้องมั่นใจว่านั่นเหมาะสมกับคุณแล้ว การเปลี่ยนสไตร์การเทรดบ่อยๆ จะทำให้การเทรดของคุณแย่ลง แต่ถ้าคุณลองแล้วเห็นว่ามันไม่เหมาะกับตัวคุณจิงๆ คุณก็ควรจะเปลี่ยนไปเทรดแบบที่เหมาะสมกับคุณมากกว่า จำไว้ว่าทุกอย่างไม่มีอะไรตายตัว คุณสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันจริงๆของคุณได้ที่สำคัญคุณต้องรู้จักตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าคุณเป็นอย่างไร อย่าโกหกตัวเองเป็นอันขาด แล้วคุณจะรู้ว่าคุณเหมาะที่จะเป็นเทรดเดอร์สไตร์ไหน
ผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณจะทำให้คุณมีสไตร์การเทรดเป็นของตัวเองและเหมะกับตัวเองมากที่สุดครับ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.